Home I Gallery I Contact
Back
| จำลองวิหารวัดพระยาไกร (วัดที่เหลือแต่ชื่อ) ตอนขึ้นโมเดลกราฟิก 3มิติ ผมทำการอ้างอิง โดยใช้วิหารที่อยู่ในเขตพระนครมาทำการดูเป็นแบบอย่าง ในส่วนของหน้าบัน ประตู หน้าต่าง สีหลังคาผมลองทำตกแต่งเพิ่มเติมเอาเอง เพราะข้อมูลนั้นเหลือเพียงแค่รูปถ่าย 1-2 รูปที่ถ่ายในอดีตกับภาพวาดจำลองครับ |
| ต่อมา "วัดพระยาไกร" กลายสภาพเป็นวัดร้าง สันนิษฐานว่าอาจเป็นเพราะท่านเจ้าสัวบุญมาคงไม่มีทายาทสืบสายสกุลทำให้ขาดผู้ดูแลอุปถัมภ์วัด หลักฐานที่ปรากฏว่าในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว วัดนี้ก็ไม่มีเจ้าอาวาสปกครองแล้ว เสนาสนะสงฆ์ปรักหักพังชำรุดทรุดโทรมยากแก่การบูรณะรวมไปถึงพระอุโบสถอันเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้น |
| จนถึงสมัยรัชกาลที่ 5 ในเวลานั้นเองทางบริษัท อีสท์ เอเชียติก จำกัด แห่งประเทศเดนมาร์ก ซึ่งทำธุรกิจค้าไม้สักส่งออกยังต่างประเทศมองเห็นเป็นทำเลที่ดีสำหรับตั้งโรงเลื่อยจักรของบริษัทฯ จึงได้แสดงความประสงค์ขอเช่าพื้นที่วัดโชตนารามจากทางราชการ |
เมื่อได้รับอนุญาตแล้วทางบริษัทฯ ก็ได้ทำการรื้อถอนเสนาสนะสงฆ์ที่ปรักหักพังเสียคงเหลือไว้แต่เพียงพระอุโบสถ อันเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้น 2 องค์ ไว้ภายในเท่านั้น พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (พระพุทธรูปทองคำ) ก่อนที่จะอัญเชิญมาประดิษฐาน ณ วัดไตรมิตรวิทยาราม รวมทั้งพระประธานในอุโบสถวัดไผ่เงินโชตนาราม ที่หล่อด้วยโลหะสำริด สมัยอาณาจักรสุโขทัย วัดพระยาไกรเป็นวัดร้างมานาน จนปี พ.ศ. 2539 ประกาศให้ยุบวัดโชตนาราม ตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการเมื่อ 7 สิงหาคม 2539 และปัจจุบันบริเวณพื้นที่นี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ วัดพระยาไกร จึงเหลือเพียงแค่ชื่อที่ยังมีอยู่ คือ สถานีตำรวจวัดพระยาไกร, แขวงวัดพระยาไกร, ชุมชนหลังตลาดเก่าวัดพระยาไกร สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ พิพิธภัณฑ์ในวัดไตรมิตรวิทยาราม |